article [last update 30-05-06]

ไต่ไม่ให้ตก...

"สิ่งที่ต้องระวังก็คือหลุม ขอนไม้ หรือโขดหิน เพราะบางครั้งอาจทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทางไปได้ อย่าตกใจหากเกิดอาการลื่นไถล" หากคุณมีโอกาสขับเจ้าตัวลุยคันเก่งเข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางแบบออฟโรดเต็มพิกัด สภาพเส้นทางแบบหนึ่งที่มีโอกาสพบค่อนข้างแน่นอนก็คือ "เนินเอียง หรือเนินแบบตะแคง" แต่บางครั้งเนินเอียงแบบนี้หละครับ ที่ดูแล้วเหมือนไม่ค่อยมีพิษสงอะไรมากนัก ก็ทำให้ขาลุยตัวจริงเสียงจริง พลาดท่าเสียหลักจนพลิกตะแคงแอ้งแม้งอยู่ข้างทางกันมานักต่อนักแล้ว

สำหรับบ้านเราที่ไม่ได้มีดูนทรายแบบนั้น แต่มักเป็นเนินเอียงแบบเนินเขา พร้อมกับมีอุปสรรคอย่างโขดหิน และหลุมลึกผสมกัน ทั้งยังมีความชันแตกต่างกันไป ใครที่เคยขับผ่านเนินแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสนามจำลองหรือของจริง คงทราบดีว่าให้ความรู้สึกหวาดเสียวเหมือนรถกำลังจะพลิกลงมาอย่างไรอย่างนั้นทีเดียว หลายคนถึงกับบอกว่าหวาดเสียวกว่าขึ้น/ลง เนินชัน ตรงๆ หลายเท่า
ในพื้นที่จริงนั้นดูเหมือนจะโหดร้ายกว่าในสนามจำลองมาก เพราะเส้นทางแบบนี้ แทร็คด้านล่างมักเป็นรองรูปตัววี อันเกิดจากน้ำไหลมาจากด้านบนลงมากัดเซาะจนเป็นร่องลึก หรือรถคันที่วิ่งผ่านไปก่อนหน้านี้ กดน้ำหนักลงพื้นเพราะ น้ำหนักถ่ายลงไปยังล้อด้านล่างมากกว่า ล้อจึงขุดตะกุยให้ทางเป็นร่องลึก เพิ่มความชันมากยิ่งขึ้น

เอาเป็นว่าหากคุณพบกับสภาพเส้นทางเช่นนี้อยู่เบื้องหน้าและจำเป็นต้องผ่านไปโดยไม่มีทางอื่นให้เลือก อันดับแรกก็คือต้องตั้งสติให้ดี หรือจะลงมาสำรวจแนวร่อง หลุม โขดหินหรืออะไรที่เป็นอุปสรรคอยู่เบื้องหน้าก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เสียฟอร์มแต่อย่างใด

เมื่อตั้งสติดีแล้วค่อยใช้ความเร็วคงที่ ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนได้ระดับความสูงที่รถจะผ่านไปได้ จึงค่อยหักพวงมาลัยให้ได้แนวระนาบเดียวกับพื้น ค่อยๆ ขับผ่านไปช้าๆ อย่าเร่งเครื่องหรือเบรกอย่างกะทันหันไม่ว่าจะเกิดอาการแปลกๆ อะไรขึ้น สิ่งที่ต้องระวังก็คือหลุม ขอนไม้ หรือโขดหิน ที่สำรวจไว้ล่วงหน้า เพราะบางครั้งอาจทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทางไปได้ อย่าตกใจหากเกิดอาการลื่นไถล
เมื่อความชันมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ขับมักเกิดความรู้สึกว่ารถกำลังเอียงใกล้จะพลิก ทั้งที่หากดูจากพื้นราบแล้วจะพบว่ารถตัวรถอาจไม่เอียงมากอย่างที่รู้สึกบางครั้งอาจเกิดความรู้สึกกลัวสัญชาตญาณจะสั่งให้เรารีบหักพวงมาลัยขึ้นด้านบนหรือไต่ขึ้นให้สูงขึ้นไปอีกแน่นอนตำแหน่ง ของล้อที่เปลี่ยนไปย่อมทำให้จุดศูนย์ของรถเปลี่ยนไปด้วย พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อเราหักพวงมาลัยขึ้นเพราะกลัวรถพลิก จุดศูนย์ถ่วงอย่างน้ำหนักส่วนใหญ่ของรถก็คือเครื่องยนต์และห้องเกียร์ที่อยู่ด้านหน้าก็ถูกย้ายให้ไปอยู่ในตำแหน่งสูงขึ้น ขณะที่ฐานจะอยู่บนล้อด้านล่างที่เอียงแต่พื้นอยู่ คราวนี้สิ่งที่คุณกลัวก็คือการที่รถจะพลิกตะแคงลงมาก็อาจเป็นเรื่องจริงได้

วิธีแก้ไข หากรู้สึกว่าอยู่ในตำแหน่งสูงเกินไปก็คือหักพวงมาลัยไปทางด้านล่างของเนิน แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องฝืนความรู้สึกว่าจะตกลงไปแล้วกลับหักพวงมาลัยเลี้ยวไปด้านล่างอีก แต่นี่คือการแก้ไขที่ถูกต้องครับ จากนั้นจึงค่อยๆ ไต่ลงมาช้าๆ หากเกิดอาการไถลอย่าตกใจกระแทกเบรกลงไปอย่างแรงเพราะจะทำให้เกิดการถ่ายทอดน้ำหนักที่อาจพาให้รถพลิกได้อีกเช่นกัน

บางครั้งแม้ว่าจะค่อยเบรกแล้วแต่รถยังไถลไม่หยุดจนกลัวว่าอาจกระทบกระแทกเข้ากับกิ่งไม้ต้นไม้บ้างก็เป็นเรื่องต้องยอมรับครับ เพราะดีกว่าการเบรกจนรถพลิก แต่ที่สำคัญคือหากคุณมีสติการใช้คันเร่งและเบรกอย่างสอดประสานก็อาจช่วยให้พ้นจากสถานการณ์นี้ได้

ที่สำคัญ... ต้องย้ำกันเป็นพิเศษก็คือ “อย่าตกใจ ตั้งสติไว้ให้มั่น” สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ครับ คำนี้เขียนง่าย อ่านง่าย แต่ทำได้ยาก และเป็นคำที่ทุกหลักสูตรการขับรถที่ผมมีโอกาสได้สัมผัส ใช้สอนกันอย่างขึ้นใจ และหากตัวรถเกิดอาการลื่นไถลหรือกลัวว่าจะพลิกให้ผืนความรู้สึกอย่าหักพวงมาลัยขึ้นด้านบนหรือเร่งเครื่อง ให้หักพวงมาลัยลงด้านล่างเท่านั้น ที่เหลือขอให้ใช้สติแก้ไขสถานการณ์ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีสูตรสำเร็จแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ .... หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ของเทพีแห่งโชคจงสถิตอยู่เคียงข้างคุณ...

 


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย ไลฟ์แอนด์ออลวีลไดรฟ์
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 30-05-06]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : teentoa@yahoo.com