article [last update 18-07-06] อ่าน

น้ำเข้าเฟืองท้าย

ที่ได้ยินพูดถึงกันบ่อยๆ ก็คือเรื่องของการที่น้ำรั่วเข้าส่วนต่างๆ ของรถ และที่เหมือนจะเป็นปัญหาตามมามากที่สุด เห็นจะเรื่องของการรั่วเข้าไปในระบบขับเคลื่อน หรือระบบต่างๆ ที่อยู่ด้านล่างของรถ ไม่ได้จำกัดแค่รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น แต่งานนี้ท่านเจ้าของรถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมถึงรถเก๋งทั่วไปก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน เพราะหากละเลยไปแล้ว ค่าของความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีมูลค่าหลายเงินเลยทีเดียวครับ ใครที่เคยมีปัญหาเรื่องเพลาดัง หรือที่เรียกกันว่า “หอน” แล้วพอนำรถเข้าไปอู่ถ่ายน้ำมันหล่อลื่นออก แต่พบว่าแทนที่จะเป็นน้ำมันเก่าสีคล้ำๆ กลับกลายเป็นเหมือนโคลน หรือคราบน้ำปะปนออกมาด้วย นั่นหละครับผลของน้ำเข้าเพลา

หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วน้ำมันรั่วเข้าไปได้อย่างไร ดูแล้วก็ไม่น่ามีรูรั่วให้เข้า…

เอาเป็นว่าถ้ายังแคลงใจไม่หายสงสัย ก็ลองก้มลงดูที่เพลาท้ายของรถคุณเองจะพบว่ามีปุ่มเล็กๆ เท่าปลายนิ้วชี้อยู่บนเสื้อเพลา ลองกดดูจะยุบตัวได้บ้างเล็กน้อย บางที่ก็ยังหมุนรอบตัวได้อีกต่างหาก เจ้านี่เองครับที่เรียกกันว่าวาล์วระบายความร้อนในเสื้อเพลา ซึ่งจะมีหน้าที่ระบายความร้อนจากการทำงานของระบบฟันเฟืองต่างๆ ที่อยู่ภายใน หากเป็นในช่วง 2-3 ปีแรกของอายุรถ ก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก แต่นานไปเจ้าสิ่งที่ไม่ได้มองเห็นง่ายๆ แบบนี้ก็มักถูกละเลย ในการตรวจเช็คความสมบูรณ์

วันดีคืนดีฝนตกน้ำท่วม แถมยังมีเหตุบังเอิญให้ต้องขับรถลุยน้ำเข้าไปอีก ทีนี้เจ้าวาล์วที่ว่าก็เริ่มหมดอายุการใช้งานแทนที่จะระบายความร้อนออกได้อย่างเดียว งานนี้ปล่อยฟรีทั้งเข้าและออก และเป็นเรื่องธรรมดาทางวิทยาศาสตร์อีกเช่นกันว่า เมื่อห้องเพลาที่วิ่งมาเป็นระยะทางพอสมควรจนเกิดความร้อนในระบบ แม้ว่าจะมีการถ่ายเทออกไปทางวาล์วระบายความร้อนบ้างแล้วก็ตาม เมื่อเทียบกับอุณหภูมิภายนอกปกติก็ต้องถือว่ามีความร้อนมากกว่าพอสมควร เมื่อต้องมาลุยน้ำที่อุณหภูมิต่างกว่าอย่างมาก จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าวาล์วระบายความร้อนที่เสื่อมสภาพลง จากปกติที่สามารถระบายออกได้อย่างเดียว ก็ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการถ่ายทอดความต่างของสภาพความดัน ซึ่งอุณหภูมิต่ำกว่ามักถ่ายเทไปยังที่อุณหภูมิสูงเสมอ

เหตุนี้เองน้ำที่ท่วมถนนหนทางอยู่ จึงถูกความต่างของอุณหภูมินี้ดึงเข้าสู่ห้องเพลาผ่านวาล์วระบายอย่างง่ายดาย คราวนี้เมื่อน้ำผสมกับน้ำมันหล่อลื่นเฟืองท้ายไปสักระยะ ผลก็ปรากฏออกมาอย่างที่ทราบกันดีนั่นหละครับ

ในรถยนต์บางรุ่นมีการออกแบบให้ต่อท่อระบายจากเสื้อเพลาขึ้นสูง ถึงขนาดว่าหากน้ำยังรั่วเข้าทางปากท่อระบายได้อีก นั่นก็หมายความว่า ระดับน้ำคงจะสูงเพียงพอให้ผู้ขับนั่งแช่น้ำอยู่ในรถ แบบนี้ก็หาคนมาช่วยเหลือได้แล้วละครับ

แต่สิ่งของต่างๆ ย่อมมีอายุการใช้งาน เอาเป็นว่าเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน ลุยน้ำท่วมรอบต่อไป เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาก็บังเอิญมีเวลาเอารถไปเช็คสภาพต่างๆ ในจังหวะลิฟต์ยกตัวรถขึ้น ผมจึงถือโอกาสมุดเข้าไปสำรวจตรวจดู ปรากฏว่าพบรอยร้าวที่แตกปริของท่อระบายอากาศจากห้องเฟืองท้าย ที่แตกลึกพอจะให้น้ำรั่วเข้าไปได้ หันไปดูที่เฟืองหน้า งานนี้แจ๊คพอตครับ ท่อระบายความร้อนที่ต่อไปอยู่ในห้องเครื่อง สูงถึงระดับเดียวกับฝาวาล์วก็ดันขาดออกจากขั้วต่อพอดีเหนือห้องเพลา เลยได้ฤกษ์ถ่ายน้ำมันออกมาตรวจเช็คสภาพกันไปในคราวเดียว

อีกจุดที่อยากแนะนำเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ก็คือบริเวณช่องต่างๆ ที่มักเป็นสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ เข้าไปควบคุมบังคับระบบเกียร์นั้น ปกติมักอยู่บริเวณด้านบนของเสื้อเกียร์ ดูลำบากสักหน่อย จะมีการป้องกันปัญหาน้ำเข้าไว้ด้วยท่อยางหรือซีล แต่เมื่อใช้ไปนานๆ แน่นอนว่าต้องมีรั่วมีฉีกขาด 100% เอาเป็นว่าเสียเวลาให้ช่างตรวจเช็คดู หากพบความเสียหายก็แก้ไขให้เรียบร้อย หรือลงมือแก้ปัญหาแบบถาวร ด้วยการทำความสะอาดบริเวณนั้นให้เรียบร้อยและอุดด้วยซิลิโคนไปเลย แบบเอาชัวร์

ของแบบนี้หาเวลาเล็กน้อยตรวจดูด้วยตัวเองได้ครับ ค่าซ่อมแซมน้อยกว่าค่ากาแฟในห้างสรรพสินค้าเสียอีก แต่ถ้าทิ้งไว้นานค่าซ่อมแซมอาจบานปลายจนมากกว่าค่างวดผ่อนส่งในแต่ละเดือนก็ได้ครับ

 


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย ไลฟ์แอนด์ออลวีลไดรฟ์
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 18-07-06]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : teentoa@yahoo.com