การเปลี่ยนขนาดความกว้างของยางให้มากขึ้น ส่วนใหญ่เจ้าของรถที่เปลี่ยนจะเชื่อกันว่านอกจากได้ความสวยงามถูกใจมากขึ้นแล้ว ยังเชื่อว่าจะทำให้มีการยึดเกาะถนนที่ดีกว่ายางเดิมที่ถอดออกไปด้วย ทั้งที่ในความเป็นจริงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับขนาดความกว้างของหน้ายางที่เปลี่ยน

ข้อดี : คือช่วยให้หน้าสัมผัสของยางมีมากขึ้น การถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่พื้นถนนมีประสิทธิภาพมากขึ้น การยึดเกาะถนนเมื่อเบรกดีขึ้น การยึดเกาะถนนบนผิวถนนแห้งดีขึ้น มีความสวยงามในมุมมองของเจ้าของรถมีมากขึ้น

ข้อเสีย : คือต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น น้ำหนักของยางและกระทะล้อที่เพิ่มขึ้นทำให้ระบบช่วงล่างต้องมีภาระในการรับน้ำหนักมากขึ้น การยึดเกาะถนนบนทางเปียกแย่กว่ายางหน้าแคบ และส่วนใหญ่เมื่อเปลี่ยนเป็นยางหน้ากว้าง มักจะใช้ยางชนิดที่มีแก้มยางเตี้ยลง จึงทำให้ความนุ่มนวลของตัวรถลดน้อยลงด้วย หมายถึงความทนทานของกระทะล้อมีน้อยลงตามไปด้วย

ในกรณีที่ถามมาเกี่ยวกับการเปลี่ยนยางเป็นขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า “บิ๊กฟู้ท” หรือยางล้อโตสำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ผู้เปลี่ยนจะต้องเปลี่ยนเป็นยางชนิดที่มีความสูงของแก้มยางมากขึ้น ดอกยางส่วนใหญ่ของยางประเภทนี้จะเป็นดอกยางแบบที่มีร่องกว้างหรือที่เรียกกันว่า “ดอกบล็อก” หรือ “ดอกบั้ง” เสียเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นข้อเสียที่ติดมากับยางในลักษณะดังกล่าวนี้คือ เสียงที่ดังมากกว่าปรกติขณะที่ล้อหมุนบดไปกับพื้นถนน การยึดเกาะถนนที่น้อยลงเนื่องมาจากมีร่องดอกยางมากขึ้น ทำให้มีเนื้อหน้ายางที่จะสัมผัสกับพื้นถนนน้อยลง แก้มยางที่สูงจะทำให้เกิดการขยับโยนตัวมากขึ้นเมื่อวิ่งบนทางโค้ง และมีการโยนตัวมากขึ้นเมื่อเบรกหรือที่คนขับรถส่วนใหญ่เรียกกันว่า “เบรกแล้วมีแถม” นั่นเอง

ดังนั้นเมื่อทบทวนข้อดีข้อเสียต่างๆ ตามที่บอกมาแล้ว การตัดสินใจเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนขนาดยาง หรือจะเปลี่ยนเป็นขนาดเท่าใดจึงจะไม่เสียประสิทธิภาพมากไป ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ขับขี่ครับ