แปลงร่างแมลงหวี่ เปลี่ยนช่วงล่างเป็นคอยล์สปริง

หนึ่งในรถมหัศจรรย์ของบ้านเราที่ยังได้รับความนิยมต่อเนื่องมานานนับสิบปี แถมยังมีราคาขายต่อแบบกำไรค่าใช้ เห็นทีจะหนีไม่พ้น "ซูซูกิ คาริบเบียน" เจ้าแมลงหวี่ตัวลุยราคาประหยัดที่มียอดจำหน่ายตั้งแต่รุ่นแรกจนถึง ณ วันนี้เกินหลักแสนคันไปแล้ว โดยที่ยังคงใช้โครงสร้างหลักเดิม และหน้าตากว่า 90% ก็ยังคงเดิม แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่น เพิ่มระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรง และหันมาใช้ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์กับเครื่องยนต์บล็อคเดิมทำให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นบ้าง พร้อมอัตราความสิ้นเปลืองที่ลดลง ที่สำคัญคือปริมาณของมลพิษที่ปล่อยออกมาสามารถผ่านข้อกำหนดได้

แม้จะมีของเล่นของแต่งออกมามากมาย ทั้งของในและของนอกจนนับกันไม่ไหว แต่ปัญหาสำคัญก็คือ ความกระด้างของช่วงล่างที่ใช้ระบบแหนบแผ่นทั้ง 4 ล้อ ประมาณว่าหากมีผู้โดยสารท้องแก่นั่งไปด้วยก็มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้ แม้จะใช้ช่วงล่างสไตล์เดิมที่แต่งแบบเอานุ่มสุดๆ จนโคลงแล้วก็ตาม

ในรุ่นต่อๆ มาของรถตระกูลนี้ ดูเหมือนว่าจะได้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดยการใช้ช่วงล่างทั้งแบบคอยล์สปริง และเพลาแข็ง ฯลฯ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีโอกาสเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในบ้านเรา ที่เห็นมีวิ่งอยู่คันสองคันก็เป็นการนำเข้ามาเอง

ในต่างประเทศที่เล่นกันเต็มสูตรก็มีการเอาตัวลุยพินเวทคันนี้มาเซตอัพ ด้วยการเปลี่ยนช่วงล่างเป็นระบบคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่องที่คิดจะทำเองได้ เพราะต้องมีการคำนวณจุดติดตั้งและรับแรง และแนวแกนล้อต่าง ที่สำคัญหากจะเอามาวิ่งใช้งานจริง ไม่ใช่เอาไว้เล่นในสนามส่วนตัวก็ต้องผ่านการตรวจรับรองของวิศวกรเครื่องกล และแจ้งการเปลี่ยนแปลงระบบกันสะเทือนแก่กรมการขนส่งทางบกด้วย

รายละเอียดคร่าวๆ เริ่มตั้งแต่วัสดุที่ใช้ อาทิ คอยล์สปริงที่ต้องมีการคำนวณน้ำหนัก ภาระงาน การให้ตัว แล้วจึงสั่งโรงงานให้ผลิตตามแบบ และเปลี่ยนเอาแหนบออก ส่งผลให้ตำแหน่งจุดยึดช็อคอัพ จึงต้องเปลี่ยนไปด้วย พร้อมแขนยึดต่างๆ ที่ออกแบบและสร้างขึ้นใหม่ โดยที่เห็นอยู่นี้ ด้านหน้าเป็นระบบกันสะเทือนแบบเรเดียสอาร์ม ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบ 4 อาร์ม โดยจุดเชื่อมยึดต่างๆ ที่สร้างขึ้นใหม่ต้องเชื่อมติด เพราะการใช้นอตยึดอาจทำให้เกิดน้ำหนักของระบบช่วงล่าง (unsprung weight) เพิ่มขึ้น รวมถึงการยืดและคลายตัวของนอตอาจสร้างปัญหาขึ้นได้หลายประการ

เจ้าแมลงหวี่คันที่เห็นนี้ผ่านการใช้งานมากกว่า 3 ปี ความทนทานเท่าที่เห็นก็คือยังไม่มีอะไรเสียหาย ขณะที่ความนุ่มนวล และการเกาะถนนทรงตัว เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด พร้อมผ่านการตรวจสภาพรับรองของกรมการขนส่งฯ เรียบร้อยแล้ว อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ เข้าไปดูได้ที่ www. ABDengineering.com หรือโทร. 0-1826-2954