article [last update 03-11-06] อ่าน

ไฟหน้าไม่สว่าง

ปัญหาสำหรับคนใช้รถในช่วงฤดูฝนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับทัศนวิสัยในการขับขี่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหากทัศนวิสัยไม่ดี โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็มีสูงตามไปด้วย ดังนั้นในรถยนต์หลายต่อหลายรุ่นจึงพยายามติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้มีทัศนวิสัยที่ดีเมื่อต้องอยู่ในรถ โดยเฉพาะในช่วงที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงและมีความชื้นสูง

ผมได้รับคำถามเกี่ยวกับการจัดการทัศนวิสัยในการขับขี่หลากหลายคำถามมาจากผู้ขับรถต่างๆ กันหลายท่าน วันนี้จึงนำเอาคำถามเหล่านั้นมารวมตอบเสียทีเดียวดังต่อไปนี้

ถาม. ดิฉันอยากทราบถึงท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถในช่วงฝนตกหนัก เพราะหากใช้ท่านั่งตามที่ได้เรียนมา จะรู้สึกว่ามองทางข้างหน้าไม่ค่อยชัดเจน

ตอบ. ผมไม่ทราบว่าคุณไปเรียนท่านั่งขับรถจากที่ไหนมา แต่ปกติแล้วคนเราส่วนใหญ่เมื่อจะขับรถ ก็มักจะปรับเบาะนั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่สบายๆ ด้วยการเอนพนักพิงไปด้านหลังเล็กน้อย แต่สำหรับคนที่มีอายุมากขึ้น การนั่งขับแบบเอนหลังเล็กน้อยนั้น อาจจะทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจนเท่ากับการนั่งโน้มตัวมาข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทัศนวิสัยค่อนข้างวิกฤติเช่น ฝนตก, หมอกลง หรือมีฝุ่นควัน

ดังนั้นผมจึงเข้าใจเบื้องต้นว่าคุณคงมีอายุอย่างน้อยก็ขึ้นต้นด้วยเลข 4 แล้ว ถึงมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ดังนั้นหากอยู่ในช่วงฝนตกและคุณต้องปรับพนักพิงให้ตั้งตรงมากขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ ขอให้คุณสามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจนขึ้นก็พอ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือเรื่องของทิศทางการทำงานของถุงลมนิรภัย เพราะเมื่อต้องปรับพนักพิงให้โน้มมาข้างหน้าหรือมาใกล้กับพวงมาลัยมากขึ้น เมื่อเกิดแรงกระแทกจนถุงลมนิรภัยพองออกมา ถุงลมก็จะออกมาอัดเข้ากับใบหน้าของคุณแรงมากจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาได้ จึงควรมีการปรับองศาของพวงมาลัยเสียใหม่ ด้วยการปรับพวงมาลัยให้เงยหน้าตั้งมากกว่าปกติเล็กน้อย เมื่อถุงลมทำงานออกมาจะได้เสยขึ้นไปด้านบนลดแรงกระแทกลงไปได้บ้างครับ

ถาม. ดิฉันอยากทราบถึงการปรับสวิตช์แอร์อย่างถูกต้องในช่วงที่ฝนตก เนื่องจากมักจะมีฝ้าเกิดขึ้นที่กระจกหน้าอยู่เสมอ ทำให้ขับรถได้ลำบากมาก

ตอบ. ส่วนใหญ่เมื่อคนขับรถรู้สึกว่าอากาศภายนอกมีความเย็น ก็มักจะปิดแอร์เพราะคิดว่านอกจากจะช่วยลดความรู้สึกหนาวแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันลงไปได้อีกด้วย โดยลืมไปว่าการที่ปิดแอร์หรือหรี่ระดับความเย็นลงไปมากๆ นั้น จะทำให้ความชื้นที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ เปลี่ยนเป็นหยดน้ำไปเกาะตามกระจกซึ่งทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ฝ้า” ขึ้นมาได้

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าก็คือ ต้องเปิดแอร์ให้มีความเย็นเท่ากันหรืออย่างน้อยต้องเย็นมากกว่าอุณหภูมิภายนอกตัวรถ หากผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกหนาวก็ต้องแก้ไขด้วยการใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย เช่น สวมเสื้อแจ๊คเก็ต เป็นต้น และต้องรู้จักวิธีการปรับทิศทางลมของแอร์ให้ไปเป่าไล่ฝ้าที่เกิดขึ้นบริเวณกระจกหน้าได้ จงหลีกเลี่ยงใช้ผ้าเช็ดกระจกหน้ารถ ขณะที่ขับขี่อยู่ เพราะจะทำให้เสียสมาธิและเกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนฝ้าที่เกิดขึ้นบริเวณกระจกบังลมหลังสำหรับรถยนต์ที่มีลวดความร้อนละลายฝ้า ให้ผู้ขับขี่เปิดสวิตช์ลวดความร้อนขึ้นมา เมื่อพบว่าบริเวณใกล้เคียงกับเส้นลวดเริ่มมีการละลายฝ้า โดยสังเกตจากกระจกบริเวณเส้นลวดจะเริ่มใสขึ้น ก็ให้ปิดสวิตช์ลวดความร้อนทันที แม้ว่ารถของท่านจะมีระบบปิดสวิตช์อัตโนมัติอยู่ด้วยก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กระจกโดนความร้อนจนระเบิด หรือร้อนจัดจนฟิล์มกรองแสงที่ติดกระจกเสื่อมสภาพไปในที่สุด

ถาม. ไฟหน้ารถผมไม่ค่อยจะสว่างเหมือนเดิม ผมมองเข้าไปเห็นบางทีก็มีหยดน้ำเกาะอยู่ที่กระจกไฟหน้า อยากทราบว่าเกิดจากอะไรและป้องกันหรือแก้ไขได้อย่างไร

ตอบ. รถยนต์ยุคตั้งแต่ช่วงราวปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไฟหน้าจากแบบที่เรียกว่า ซีลบีม คือแบบที่ผนึกแน่นทั้งโคมไฟ เมื่อไส้หลอดไฟขาดก็ต้องเปลี่ยนกันทั้งโคม มาเป็นไฟแบบฮาโลเจน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเฉพาะหลอดไฟได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโคม ที่สำคัญคือมีการออกแบบโคมใหม่ มีการเจาะรูเล็กๆ ไว้ด้านใต้ของขอบกระจก เพื่อระบายความร้อนจากหลอดไฟ เพราะหลอดไฟแบบฮาโลเจนมีความสว่างมากกว่าแบบซีลบีม แต่ก็มีความร้อนสูงกว่า หากไม่มีรูระบายความร้อนออกมาบ้าง ก็จะทำให้โคมฉายหรือส่วนที่สะท้อนแสงไฟหมองเร็วทำให้ไม่สามารถรวมจุดตกกระทบของลำแสงไฟได้

รูเล็กๆ ดังกล่าวนี้เองที่ทำให้อากาศและความชื้นเข้าไปปะปนอยู่ในโคมไฟ และจับตัวรวมกันเป็นหยดน้ำหรือฝ้าเกาะตามกระจกโคมไฟ วิธีการป้องกันก็คือให้เปิดไฟหน้าทุกครั้งที่ฝนตกหรือขับรถท่ามกลางความชื้นและสายหมอก เพราะความร้อนจากการเปิดไฟจะทำการขับไล่ความชื้นจากโคมป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าและหยดน้ำ

หากลืมและพบว่ามีหยดน้ำก็ให้เปิดไฟหน้าทิ้งไว้สักพักหนึ่ง หยดน้ำนั้นก็จะถูกความร้อนเผาจนละลายหยดออกมาตรงรูระบายที่อยู่ด้านล่าง เพียงเท่านี้โคมไฟก็จะสว่างนวลตา และหากปล่อยทิ้งไว้จนโคมไฟหมองไปแล้ว ก็ให้ถอดโคมไฟอออกมา เอาน้ำผสมน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาเช็ดกระจกเจือจาง กรอกย้อนเข้าไปแล้วเขย่าเบาๆ ให้ทั่ว จากนั้นจึงเทน้ำออกมาและปล่อยให้หยดทิ้งลงมาจนแห้ง

ห้ามใช้ผ้าหรือวัสดุใดไปเช็ดเป็นอันขาด เท่านี้โคมไฟหน้ารถของคุณก็จะเงางามสามารถใช้งานได้ต่อไปอีกนานครับ

 


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย ออโต้ คลีนิค
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 03-11-06]

 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : teentoa@yahoo.com