article [last update 14-02-07] อ่าน

ดูแลพัดลมฟรีคลัตช์ก่อนพัง…!

เรื่องของพัดลมฟรีคลัตช์หรือที่บางท่านอาจเรียกว่าพรีปั๊มก็ตามสะดวก ก็คือพัดลมขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้องเครื่อง โดยมากเป็นรถที่วางเครื่องตามยาว อย่างรถกระบะ รวมถึงตัวลุยอีกหลายๆ คัน โดยหน้าที่ของพัดลมตัวนี้ก็คือทำหน้าที่ดึงอากาศให้ผ่านหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อน

แต่เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งโดยมากประมาณ 1 แสนกิโลเมตรเป็นต้นไป ก็อาจพบว่าเครื่องยนต์มีความร้อนมากขึ้น โดยสาเหตุหนึ่งก็คือพัดลมที่ว่าหมุนช้าลง ทำให้มีปริมาตรของลมที่ผ่านหม้อน้ำเข้ามาน้อยลง ลำพังรถวิ่งยาวตลอดคงไม่รู้สึกเท่าไร เพราะมีลมเข้ามาปะทะหม้อน้ำตลอด แต่หากต้องเผชิญกับภาวะจราจรตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลายแล้วรับรองได้ว่าเห็นเข็มความร้อนขยับตัวใกล้ขีดแดงอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะในพัดลมดังกล่าวจะบรรจุด้วยของเหลวชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้รับความร้อนก็จะมีความหนืดเพิ่มขึ้น ทำให้พัดลมหมุนตามแรงฉุดของสายพานด้วยรอบสูงขึ้น ในทางกลับกันหากเครื่องยนต์ยังไม่ร้อนนัก ความร้อนที่แผ่ไปถึงยังไม่มาก พัดลมก็จะยังหมุนไม่แรงนัก เมื่อของเหลวภายในยังไม่เกิดความหนืด จึงทำให้มีการฟรีของแกนพัดลมไปในระดับหนึ่ง

แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรที่อยู่ยั้งยืนยง เมื่อผ่านไปสักระยะตามที่ว่า น้ำยาภายในก็อาจเสื่อมสภาพหรือรั่วซึมออกไปตามซีลขอบต่างๆ ทำให้ในช่วงเครื่องยนต์ร้อนแล้วนั้น รอบของใบพัดจะฟรีมากเกินไปปริมาณลมที่ถูกดูดเข้ามาน้อยไม่พอระบายความร้อนของแผงรังผึ้งหม้อน้ำได้เพียงพอ เครื่องยนต์จึงเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่าปกติ แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นแล้วเครื่องโอเวอร์ฮีตทันทีนะครับ เพราะอาการนี้จะค่อยๆ เป็นมากขึ้น และเปิดโอกาสให้มีเวลาแก้ไขซ่อมแซมได้ทัน

วิธีเช็คง่ายก็คือดับเครื่องยนต์แล้วลองหมุนพัดลมที่ว่าดู หากรู้สึกฟรีได้คล่องตัวไม่มีความรู้สึกหนืดต้านนั่นก็เป็นอาการบ่งบอกได้ว่า คลัตช์พัดลมของคุณถึงเวลาต้องแก้ไขแล้ว

วิธีซ่อมแซมทั่วไปก็คือถอดตัวชุดฟรีคลัตช์พัดลมออกมา แล้วเติมน้ำยาลงไปใหม่ ซึ่งรถบางคันอาจไม่มีช่องเติมน้ำยาให้ เพราะในบางประเทศค่าแรงในการถอดออกมาตรวจเช็คหรือเติมน้ำอาจใกล้เคียงกับการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ด้วยซ้ำไป ไหนช่างยังจะต้องพิถีพิถันเรื่องการซ่อมที่อาจมีข้อบกพร่องหรือปัญหาในอนาคตมากกว่าการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่

แต่ในบ้านเราที่ค่าอะไหล่แพงกว่าค่าแรงการซ่อมอยู่มาก การเลือกวิธีแก้ไขดัดแปลงด้วยการเจาะรูที่ตัวคลัตช์พัดลม แล้วอุดด้วยนอตเกลียวปล่อย พร้อมพอกด้วยกาวประเภทอีพ็อกซี่อีกครั้ง จึงเป็นทางออกที่ค่อนข้างประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างคุ้มค่า เพียงแต่ต้องดูว่ารถยนต์แต่ละรุ่นนั้นต้องเติมน้ำยากี่ซีซี เพราะหากมากเกินไป พัดลมก็จะทำงานมากเกินไป ทำให้มีเสียงดัง กินแรงเครื่อง และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
แต่นั่นเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าหลายท่านอาจทราบดีอยู่แล้ว....

เรื่องที่มักถูกมองข้ามไปก็คือ แกนของพัดลมฟรีคลัตช์ ที่ยึดกับตัวเสื้อฐานโดยมีตลับลูกปืนเป็นจุดหมุนและรับแรงที่ถูกฉุดจากสายพานและหมุนอยู่ตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ลูกปืนที่ต้องหมุนด้วยรอบจัดเช่นเดียวกับรอบเครื่องยนต์ก็มีโอกาสเสียหายได้ ไม่ว่าจะเป็นจากความร้อน หรือสารหล่อลื่นประเภทจาระบีที่อาจหมดอายุไป จนที่สุดก็มีอาการหลวมคลอน ส่งเสียงดัง แต่หากเจ้าของรถไม่คอยสังเกตกระทั่งลูกปืนแตกคราวนี้มีโอกาสเรื่องใหญ่แน่

เมื่อถอดออกมาแล้วลองเอามาหมุนฟังเสียงดู ดังกราวชัดเจนครับ โยกดูอีกครั้งปรากฏว่ามีระยะร่นตัวของแกนพัดลมขยับให้ตัวได้อย่างรู้สึกได้ชัด งานนี้ไม่ต้องสงสัยประเภทจำเลยจำนนต่อหลักฐานอย่างไม่มีทางปฏิเสธ และถือว่าเป็นโชคดีที่ตรวจพบก่อน เพราะช่วงที่ผ่านมาพบว่าหลายคันปล่อยจนแกนพัดลมหลุดจากเสื้อที่เป็นฐานยึดแล้วพุ่งเข้าปะทะหม้อน้ำ งานนี้คำนวณค่าเสียหายคร่าวๆ ก็เริ่มตั้งแต่ค่าหม้อน้ำราว 6-7 พันบาท ค่าชุดลูกปืนพัดลมฟรีปั๊มตัวใหม่อีกร่วมหมื่น แถมด้วยค่าลากอีกตามระยะ ซึ่งเริ่มต้นที่ราว 2,500 บาท ส่วนค่าเสียเวลาเสียอารมณ์คงต้องประเมินกันเอาเอง

หลังจากถอดออกมา ก็ง่ายๆ ครับ ถอดพัดลมและคลัตช์ออก และนำส่งโรงกลึงใกล้บ้านที่คิดว่าฝีมือพอเชื่อใจได้ หรือจะไปบอกอู่ที่สนิทชิดเชื้อกันช่วยจัดการถอดและหาโรงกลึงจัดการอัดลูกปืนเก่าออก ถ้ากลัวไม่เข้าใจก็ตัดคอลัมน์นี้ไปให้ดูประกอบด้วยก็ได้ จากนั้นตรวจเช็คสภาพตัวเสื้อของลูกปืนว่ายังดีหรือสึกหรอเสียหายไปบ้างหรือเปล่า ถ้าสึกหรอไปแล้วยังอยู่ในเกณฑ์เชื่อมพอกและกลึงแต่งใหม่ได้หรือไม่ หากใช้ได้ก็ว่ากันที่ขั้นตอนต่อไป

คราวนี้มาดูครับว่าพื้นที่สำหรับลูกปืน และแกนพัดลมมีระยะเท่าไร หากพื้นที่และแกนพัดลมมีความยาวเพียงพอเหมือนนายแบบที่เห็นนี้ ซึ่งใช้ลูกปืนตัวเดียว ก็จัดการโมดิฟายให้เป็นตลับลูกปืน 2 ชุดเสียเลย เพื่อลดแรงเครียดจากการทำงาน จากนั้นกลึงบู๊ชใหม่ปิดท้ายเข้าไป แล้วใช้แหวนล็อกอีกชั้นกันบู๊ชและลูกปืนเคลื่อนตัว เท่านี้ก็สบายไปอีก 1 แสนกิโลเมตรแล้วครับ แถมยังไม่ต้องไปลุ้นกินข้าวลิงกลางป่าอีกต่างหาก

 


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย ไลฟ์แอนด์ออลวีลไดรฟ์
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 14-02-07]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : webmaster@teentoa.com นายตีนโต 08949-09005