article [last update 06-06-06] อ่าน

เรื่องร้อนๆ (ตอนจบ 2)

ที่ตัวเครื่องยนต์รถรุ่นใหม่ๆ มักจะมองไม่ค่อยเห็นอะไรมากนักแต่ก็ต้องสังเกตบางจุดพอจะเห็นได้เช่นหยดน้ำคราบน้ำที่ใต้ปั๊มน้ำ ตาน้ำที่เสื้อสูบ ในรถยุโรปบางยี่ห้อ จะติดตั้งระบบฮีทเตอร์ หรือระบบทำความร้อน มาพร้อมกับระบบทำความเย็นระบบฮีทเตอร์ ก็จะใช้ความร้อนจากเครื่องยนต์ที่น้ำในระบบดูดซับออกมาต่อเข้าที่ตัวฮีทเตอร์ (Heat exchanger) อยู่ในตู้เดียวกับตู้แอร์ ความร้อน จากน้ำจากตัวเครื่องก็จะไหลผ่านท่อยางท่ออะลูมิเนียมหรือทองแดงที่ตัวถังรถแล้วต่อเข้าตัวฮีทเตอร์ ก็ต้องตรวจดูท่อทางเหล่านี้ ช่างบางคนกับรถรุ่นนี้มักจะแนะนำให้อุดท่อทางความร้อนเหล่านี้โดยอ้างว่าบ้านเราเมืองร้อนไม่จำเป็นต้องใช้ก็ใช่ครับถอดออกก็ไม่มีผลเสียอะไร แต่จะว่าไม่มีประโยชน์ก็ไม่ได้

ครับ มีแน่ ถ้ารู้จักใช้ ถ้ารถเครื่องร้อนในขณะจราจรติดขัดหาที่จอดไม่ได้ เปิดฮีทเตอร์ในขีดความร้อนสูงสุด โดยไม่ต้องปิดแอร์เปิดกระจกหน้าต่างให้หมด ดึงมือเปิดฝากระ-โปรงให้คลายล็อกฝากระโปรงจะแง้มขึ้นนิดหน่อยพอให้อากาศจากภายนอกเข้าไปไล่ความร้อนในห้องเครื่อง ความร้อนจากน้ำในระบบจะระบายออกมาทางไอร้อนจากระบบฮีทเตอร์ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้มีเวลาพอขับรถเข้าหาที่จอดเพื่อหาสาเหตุต่อไปวิธีนี้ใช้ได้ดีในกรณีที่น้ำไม่แห้งจากหม้อน้ำครับ เพราะถ้าน้ำแห้งก็ไม่มีประโยชน์

ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อจะจอดรถที่บ้านเข้าที่จอดรถเรียบร้อยปิดแอร์ไม่ต้องดับเครื่อง เปิดฮีทเตอร์ให้ร้อนที่สุดพัดลมทำงานจังหวะที่แรงที่สุด ไอความร้อนจะพัดออกผ่านทางคอยล์เย็นช่วยไล่กลิ่นอับและทำลายเชื้อโรคได้บางชนิด ถ้าทำอย่างนี้ได้เดือนละครั้งแอร์รถคุณจะสะอาดสดชื่นและช่วยให้ตู้แอร์ตันช้าลง

ถ้าจับพลัดจับผลูว่ารถที่คุณขับอยู่นั้นมาตรวัดอุณหภูมิหรือเกจ์ความร้อนขึ้นไปสูงสุดเกือบถึงหรือถึงขีดแดงในขณะจราจรติดขัดอยู่นั้นควรจะทำอย่างไร

อย่างแรกเลยอย่ากลัวอย่าตกใจมองหาที่ที่จะนำรถเข้าจอดให้ได้เร็วที่สุดเมื่อเห็นจุดหมายแล้ว ดึงฝากระโปรงรถให้คลายล็อก จากจุดที่คุณนั่งขับอยู่นั้นเมื่อฝากระโปรง คลายล็อกแล้วคุณก็อาจจะมองเห็นไอน้ำพวยพุ่งออกมาจากห้องเครื่อง ถ้าคุณไม่เห็นไอน้ำ ก็หมายถึงว่ารถคุณเครื่องร้อนไม่ได้เกิดจากการรั่วซึม เมื่อขับเข้าที่จอด ถ้าน้ำรั่วจนเกิดไอน้ำพุ่งขึ้นมาก็อย่าเพิ่งรีบเปิดฝากระโปรงรอจนกว่าไอน้ำนั้นจะหมดไปจากห้องเครื่อง เช่นกันถ้าไม่มีไอน้ำพุ่งออกมาเพราะเครื่องร้อนจากสาเหตุอื่น คุณดับเครื่องรอจนกว่าอุณหภูมิจากมาตรวัดอยู่ในระดับต่ำกว่าปกต ิ(ต่ำกว่า 80 องศาหรือขีดกลาง) จึงเปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ แล้วรอจนเครื่องเย็นลงจึงตรวจหาสาเหตุ

ถ้าหาไม่พบรอจนเครื่องเย็น เติมน้ำในหม้อน้ำ (ถ้าน้ำแห้ง) โดยค่อยๆ รินลงไปช้าๆ ในขณะนี้น้ำที่คุณเติมมีความเย็นไหลรินเข้าไปในที่ๆ สะสมความร้อนอยู่จะทำให้มีไอน้ำสวนกลับออกมาก็ไม่ต้องตกใจ ค่อยๆ เติมน้ำต่อไปจนน้ำเต็มหม้อน้ำหรือถังพักน้ำ

ในขั้นตอนนี้ยังไม่ต้องปิดฝาหม้อน้ำ ตรวจหารอยรั่วอีกครั้ง ถ้าไม่พบว่ามีรอยรั่ว สายพานปั๊มน้ำไม่ขาด คุณก็ติดเครื่องอีกครั้งถ้าเครื่องติดหรือในขณะที่สตาร์ทเครื่องอยู่นั้นมีแรงดันของน้ำออกมาทางหม้อน้ำหรือถังพักน้ำซึ่งจะเห็นได้จากฝาหม้อน้ำที่คุณเปิดเอาไว้ เครื่องติดแล้วถ้าน้ำยังพุ่งออกมาก็ปล่อยไปสักระยะดูว่าน้ำนั้นหยุดพุ่งออกมาหรือไม่ถ้าหยุดติดเครื่องทิ้งใว้ (ยังเปิดฝาอยู่) รอจนอุณหภูมิเครื่องถึงขีดทำงานปกติ

ช่วงเวลานี้ วาล์วน้ำ (ถ้าปกติ) จะรับอุณภูมิความร้อนจากน้ำเปิดให้น้ำจากหม้อน้ำเข้าไปหมุนวนในเครื่องได้ ตามปกติแล้วถ้า เราเติมน้ำในขณะที่เครื่องเย็นแล้วเติมจนเต็มน้ำก็จะเต็ม แค่ในหม้อน้ำหรือถังพักน้ำเท่านั้นเพราะวาล์ว น้ำยังไม่เปิด แล้วคุณปิดฝาปริมาณน้ำที่มีในระบบก็ไม่พอเพียงในการนำพาความร้อน เมื่อวาล์วน้ำเปิดน้ำจากหม้อน้ำไหลเข้าตัวเครื่องน้ำในหม้อน้ำก็จะลดปริมาณลง คุณจึงต้องเติมน้ำอีกครั้งให้อยู่ในระดับที่กำหนด ปิดฝาหม้อน้ำตรวจดูการรั่วซึม พัดลมไฟฟ้าทุกตัวที่หน้าคอยล์ร้อนและหลังหม้อน้ำ ครับถ้าไม่ใช่ช่างอาจจะมองไม่ออกว่าพัดลมบกพร่องหรือไม่เพราะเท่าที่คุณดูอยู่อาจจะทำงานทุกตัวก็ไม่เป็นไร ปล่อยผ่านไปทดสอบขับเลือกถนนที่จราจรไม่หนาแน่นมากนักและสิ่งแวดล้อมปลอดภัยกับตัวคุณเอง

ขับตามปกติตรวจดูมาตรวัดความร้อนว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ถ้าทุกอย่างปกติคุณอาจจะสงสัยว่าแล้วที่ผ่านมาร้อนได้อย่างไร อาการเช่นนี้สาเหตุมีอยู่อย่างเดียวคือระดับน้ำต่ำกว่าปกติ ต่ำจนทำให้ประสิทธิภาพในการนำพาความร้อนสูญเสียไปที่เกิดขึ้นก็อาจจะเพราะละเลยที่จะตรวจดูระดับน้ำตามที่พึงปฏิบัติ หรืออาจจะเกิดขึ้นเพราะคุณต้องเติมน้ำทุกวันโดยไม่คิด (เพราะไม่เห็น) ว่ามีจุดรั่วซึม ถ้ารถคุณต้องเติมน้ำบ่อยๆ หรือเกือบทุกวันคุณจะต้องตั้งสมมติฐานแล้วว่ามีน้ำรั่วที่จุดใดจุดหนึ่ง ก็ต้องรีบหาสาเหตุเพื่อกำจัดปัญหาและป้องกันการบานปลาย

ในกรณีที่คุณเติมน้ำเต็มแล้วติดเครื่องโดยที่ไม่ปิดฝาหม้อน้ำแล้วน้ำพุ่งออกมาทางฝาหม้อน้ำตลอดเวลา คุณมีทางเลือกอยู่สองทางคือหนึ่งขับรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด หรือลากรถของคุณเข้าอู่หรือเข้าศูนย์ที่คุณใช้ประจำอยู่ อย่าขับหรือลากเข้าอู่ที่คุณไม่คุ้นเคย เพราะอาการที่เกิดขึ้นนี้แม้ดูว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเครื่องของคุณจำเป็นต้องเปิดฝาสูบ เมื่อคุณนำรถเข้าอู่หรือเข้าศูนย์บริการแน่นอนเป็นงานที่ต้องเปิดฝาสูบ

บางครั้งอาการเช่นนี้ถ้าได้พบกับช่างที่มีความรับผิดชอบไม่คิดว่าผู้ใช้รถคือเหยื่อที่จะเข้ามาให้ต้อน ตรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วงานที่ทำก็เป็นแค่ กวดขันนอตฝาสูบให้ได้ค่าตามกำหนด (ราคาหลักร้อย) หรือเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบเพียงอย่างเดียว (ราคาหลักพัน) แต่เกือบทั้งหมดแม้จะมีฝีมือแต่กำไรต้องมาก่อนคุณก็จะใด้รับใบประเมินราคายาวเหยียดเริ่มตั้งแต่ เปิดฝาสูบ บดวาล์ว เจียรบ่าวาล์ว ใสฝาสูบ เปลี่ยนแหวน และอื่นๆ (ราคาหลักหมื่น)
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะซ่อมด้วยวิธีใด เมื่องานซ่อมเสร็จแล้วก่อนจะจ่ายเงินหรือก่อนจะออกจากอู่หรือศูนย์บริการคุณต้องถามให้รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เครื่องร้อนและร้อนจนต้องเปิดฝาสูบ และได้แก้ไขสาเหตุเหล่านั้นไปหรือยัง

เพราะถ้าต้นตอของปัญหาไม่ได้รับการแก้ใข คุณขับอีกไม่นานคุณก็จะพบกับเรื่องร้อนๆ ให้เสียเงินเสียทองกันอีก


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย นายประโยชน์
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 06-06-06]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : teentoa@yahoo.com