article [last update 23-11-06] อ่าน

ลุยน้ำ อีกแล้ว

ฝนตกลงมาก็ย่อมมีน้ำท่วมขังบนพื้นทั้งพื้นถนนและพื้นบ้านเรือนทั่วไป รถยนต์ที่แล่นอยู่บนถนนดีๆ ก็กลายเป็นต้องแล่นไปบนผิวน้ำที่ท่วมขัง หลายแห่งท่วมถึงระดับมิดล้อออกบ่อยครั้งไป ทำให้คนที่ขับรถอยู่เกิดความกังวลว่า ขับรถบนน้ำจะต้องทำอย่างไร และหลังจากลุยน้ำมาแล้วต้องทำอะไรกับรถบ้าง หรือแม้แต่คำถามที่หลายคนถามมาว่า น้ำท่วมถึงระดับไหนถึงจะไม่น่าเสี่ยงขับรถลุยไป

คำถามเหล่านี้ถูกส่งเข้ามาหาผมไม่น้อยกว่า 30 รายในช่วงเวลา 2 วัน วันนี้ผมจึงขอร่ายยาวสาธยายเรียงตามลำดับดังต่อไปนี้คือ เมื่อเห็นว่าทางข้างหน้ามีน้ำท่วมขัง ให้ดูก่อนว่าระดับน้ำที่ท่วมขังสูงเพียงใด หากสูงเกินกว่าครึ่งล้อรถสำหรับรถเก๋ง ย้ำว่าสำหรับรถเก๋งเพราะหากเป็นรถปิกอัพต้องใช้เกณฑ์อื่นมาเทียบเคียง เกินกว่าครึ่งล้อรถเก๋งก็ไม่ควรเสี่ยงขับลุยฝ่าน้ำไปสำหรับมือใหม่โดยทั่วไป

ระดับน้ำที่เกินกว่าครึ่งล้อต้องขับด้วยผู้ชำนาญการเท่านั้น ยกเว้นแต่เป็นถนนที่ไม่มีรถอื่นวิ่งอยู่ด้วย ท่านอาจจะสามารถขับด้วยเกียร์ 2 ในแบบเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์ D และใช้ความเร็วคงที่ ย้ำว่าความเร็วคงที่โดยรถต้องวิ่งไปสม่ำเสมอไม่กระตุกกระฉึกกระฉัก ความเร็วที่ใช้อยู่ระหว่าง 10 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงคงที่ในบริเวณที่น้ำเกินครึ่งล้อแต่ไม่ถึงกับมิดล้อ และต้องเป็นน้ำนิ่งเท่านั้นไม่ใช่น้ำไหลเด็ดขาด

แต่คำแนะนำที่อยากให้สำหรับคนขับรถทั่วไปคือ ระดับน้ำท่วมครึ่งล้อเป็นระดับสูงสุดที่ควรขับข้ามไป เพราะต้องย้ำอีกครั้งว่าน้ำสูงเกินครึ่งล้อถือเป็นระดับความเสี่ยงสูง จนต้องใช้มือของผู้ชำนาญการมากๆ เท่านั้น มิฉะนั้นโอกาสที่จะเกิดความเสียหายหรือเครื่องยนต์ดับกลางน้ำจะมีมากทีเดียว

หลังจากขับผ่านน้ำท่วมขังมาแล้ว แม้จะเป็นการขับผ่านน้ำที่ท่วมขังเพียงแค่เศษ 1 ส่วน 4 ของระดับความสูงล้อ ให้ผู้ขับขี่สังเกตดูว่าถนนว่างเพียงพอ ไม่มีรถตามหลังมาในระยะสายตามองเห็น รถสวนทางมามีน้อยหรือไม่มีเลย ให้ขับด้วยระดับความเร็วที่แนะนำในเบื้องต้นและด้วยอัตราทดเกียร์ที่บอกไว้เมื่อขับลุยน้ำ

เท้าขวายังคงวางอยู่บนแป้นคันเร่งตามปกติ ใช้เท้าซ้ายค่อยๆ แตะเบรกเบาๆ ในแบบที่เรียกว่า เลียเบรก แตะปล่อยๆ แตะปล่อยแบบย้ำถี่ๆ ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักที่กดลงบนแป้นเบรกไปเรื่อยๆ ทำสัก 4-5 ครั้ง จนรู้สึกว่าเบรกเริ่มทำงานรถถูกดึงจนลดความเร็ว

ข้อควรระวังคือในขณะที่เบรกเริ่มจับทำงาน รถอาจจะมีอาการเซไปทางซ้ายหรือขวาได้ จึงต้องจับพวงมาลัยไว้ให้มั่นคง ทำจนแน่ใจว่าเบรกจับทำงานเต็มที่ดีแล้ว เมื่อเห็นว่าด้านหลังไม่มีรถตามมาแน่นอน จึงให้ทำการเบรกแบบปกติอีกครั้งหนึ่งเพื่อแน่ใจว่าสามารถหยุดรถได้ตามปกติ จึงขับรถออกต่อไปได้อย่างมั่นใจ

ข้อที่ต้องการย้ำเตือนในช่วงนี้คือ การขับรถลุยน้ำต้องรักษาระดับความเร็วเอาไว้ให้คงที่ อย่าใช้ความเร็วสูงเกินไปจนน้ำสาดเข้ามากระแทกใต้ท้องรถหรือสาดเข้าห้องเครื่องยนต์ สังเกตจากคลื่นที่ออกไปจากล้อรถควรเป็นคลื่นที่มีระดับไล่ตามกันเล็กน้อย ไม่ควรให้เป็นน้ำสาดกระเซ็นแบบหัวเรือหางยาวแหวกน้ำ และต้องตรวจสอบเบรกทุกครั้งหลังจากผ่านน้ำทันทีที่สามารถทำได้


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย ออโต้ คลีนิค
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 23-11-06]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : teentoa@yahoo.com