article [last update 25-07-07] อ่าน

เบรกหมด - เบรกดัง - เบรกติด

เรื่องของเบรกในรถยนต์มีความสำคัญมากแค่ไหน ผู้ใช้รถทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้ว แต่นอกจากความสำคัญที่เกี่ยวกับความปลอดภัยแล้วการบำรุงรักษาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ใช้รถต้องใส่ใจให้มากเข้าไว้

ที่จริงแล้วระบบเบรกในปัจจุบันเป็นระบบที่ผู้ใช้รถแทบจะไม่ต้องมีภาระอะไรเลยในการตรวจตราดูแล แม้ว่าจะมีตัวช่วยเบรกให้ใช้อยู่หลายระบบในรถคันหนึ่งๆ สิ่งที่จะต้องทำมีเพียงอย่างเดียวคือต้องรู้ว่าเมื่อไรจึงจะเปลี่ยนผ้าเบรก เพราะผ้าเบรกจะสึกหรอตามการใช้งาน บนหน้าปัดรถยนต์ทุกคันจะมีสัญญาณเตือนบอกถึงการสึกหรอของผ้าเบรกโชว์ขึ้นมาเมื่อผ้าเบรกใกล้จะหมด

เป็นที่น่าเสียดายที่ว่าศูนย์บริการหลายที่ หลายยี่ห้อ ถือโอกาสตีกิน (ฟัน) เพื่อที่จะเปลี่ยนผ้าเบรกหรือการขายผ้าเบรก เมื่อผู้ใช้รถนำรถเข้าตรวจเช็คตามปกติแล้วทิ้งรถไว้ในศูนย์บริการโดยที่เจ้าของรถต้องไปทำธุรกิจที่อื่นจึงเป็นโอกาสให้ศูนย์บริการที่มักได้แจ้งกลับไปทางโทรศัพท์ว่าผ้าเบรกหมดแล้วจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนโดยอ้างเอาความปลอดภัยของผู้ใช้มาขู่ให้เกิดความกลัว บ่อยครั้งที่ผู้ใช้รถได้รับแจ้งว่าผ้าเบรกหมดไปแล้ว 50% บ้าง 60% บ้างโดยอ้างว่าส่วนที่เหลือนั้นใช้ได้อีกไม่นานก็จะหมดแล้ว ความจริงแล้วถ้าผู้ใช้รถสนใจที่จะอ่านหนังสือคู่มือแล้วจะรู้ได้ว่าผ้าเบรกจะสึกหรอจนหมดถึงขั้นที่จะต้องเปลี่ยนนั้นไฟเตือนบนหน้าปัดจะต้องโชว์ให้เห็น

และโดยความเป็นจริงแล้วแม้ว่าไฟเตือนจะโชว์ขึ้นมาก็ไม่ได้หมายความว่าผ้าเบรกนั้นหมดแล้วโดยสิ้นเชิง จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอย่างทันทีทันใดเพราะว่าเมื่อไฟเตือนโชว์ขึ้นมานั้นจะบอกแต่เพียงว่าผ้าเบรกนั้นถูกใช้งานไปแล้ว 80% ส่วนที่เหลือนั้นสามารถที่จะใช้ได้อีกระยะหนึ่ง มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับของแต่ละคน

สมมติว่าสุภาพสตรีท่านหนึ่งนำรถเข้าศูนย์บริการตรวจสภาพที่ระยะทาง 6 หมื่นกิโลเมตร ได้รับแจ้งว่าผ้าเบรกเหลือเพียง 40% ส่วนใหญ่แล้วเมื่อได้รับแจ้งอย่างนั้นแล้วก็จะสั่งให้เปลี่ยน โดยที่ลืมคิดไปว่าผ้าเบรกหมดไป 60% จากการวิ่ง 6 หมื่นกิโลเมตร ส่วนที่เหลืออีก 40% นั้นควรจะใช้งานได้อย่างน้อย 4 หมื่นกิโลเมตร

แต่เอาละเผื่อขาดเผื่อเหลือ รอเปลี่ยนจนไฟเตือนโชว์ขึ้นมาก็ยังใช้ได้อีก 2 หมื่นกิโลเมตร การขู่เพื่อที่จะขายอะไหล่โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ขับรถมักจะได้ผล ทางแก้ก็คือก่อนนำรถเข้าศูนย์บริการตรวจสอบมาตรวัดบนหน้าปัดว่ามีไฟเตือนผ้าเบรกหมดโชว์ขึ้นมาหรือไม่ ถ้าไม่ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวคำขู่นั้น (ยกเว้นก็แต่ว่าคุณเติมน้ำมันเบรกทุกครั้งที่น้ำมันเบรกพร่อง)

ถ้าจะมีคำถามว่าผ้าเบรกมีอายุการใช้งานได้นานเท่าไร โดยทั่วๆ ไปแล้วถ้าเป็นมือใหม่ๆ ก็จะสามารถที่จะใช้ได้ถึง 8 หมื่นกิโลเมตร สำหรับผ้าเบรกล้อหน้าที่เป็นดิสก์เบรกและ 3 เท่าตัวของล้อหน้าในชุดผ้าเบรกล้อหลังไม่ว่าจะเป็นแบบ ดรัมหรือดิสก์ หลายๆคนใช้ได้ถึงหลักแสนกิโลเมตรในล้อหน้า ที่สำคัญที่สุดก็คือไฟเตือนผ้าเบรกโชว์ขึ้นมาก็ถึงเวลาที่ใกล้จะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกกันแล้ว

ต้องจำไว้ว่าอย่าเติมน้ำมันเบรกในกระป๋องน้ำมันเบรกเมื่อเห็นว่าน้ำมันเบรกพร่องลงไป เพราะระดับน้ำมันเบรกที่ยุบหายไปนั้นคือการบอกอัตราการสึกหรอของผ้าเบรก ยกเว้นก็แต่ว่าอัตราการยุบของน้ำมันเบรกเป็นไปอย่างรวดเร็ว นั่นก็บอกได้ว่าจะต้องมีการรั่วซึมที่จุดใดจุดหนึ่งในระบบควรอย่างยิ่งที่จะต้องรีบเข้าหาช่างให้ค้นหาและแก้ไข ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกหรือผ้าเบรกสึกหรอเร็วกว่ากำหนด คุณควรจะต้องหาสาเหตุโดยดูจากผ้าเบรกเก่าที่ถูกเปลี่ยน เช่นมีรอยไหม้ดำ ผ้าเบรกทั้ง 4 ชิ้นสึกไม่เท่ากันถ้าพบอาการอย่างนั้นคุณต้องให้ช่างตรวจสอบค้นหาความผิดปกติที่เกิดขึ้น

รถที่ใช้งานมานานแล้วจนผ้าเบรกชุดแรกใกล้จะหมดหรือหลังจากเปลี่ยนผ้าเบรกมาแล้วมีเสียงดังเกิดขึ้นในขณะที่ค่อยๆ แตะเบรก นั่นก็หมายความว่าจานเบรกของคุณเริ่มสึกหรอมากขึ้นจนขอบนอกและขอบในนูนขึ้นมาเป็นสัน ทางแก้มีอยู่ 2 อย่าง คือ อย่างแรกเหยียบเบรกให้แรงขึ้น หรืออย่างที่ 2 ถอดจานเบรกออกมาลบขอบหรือเจียรขอบที่นูนเป็นสันนั้นออกเสียงก็จะหายไป และหลายครั้งในรถที่ใช้งานมานาน เสียงจะเกิดจากล้อหลังแต่เรามักจะคิดกันว่ามาจากล้อหน้า

จานเบรกหรือจานดิสก์ไม่ว่าจะเป็นล้อหน้าหรือล้อหลังมักจะบอกความหนาเอาไว้โดยมีลิมิตว่าความหนานั้นเหลือน้อยเท่าไรจึงต้องเปลี่ยน และจานเบรกในปัจจุบันไม่ว่าจะสึกมากหรือน้อยหรือสึกแบบใด ไม่สมควรที่จะประหยัดเงินในการนำไปเจียรจาน เพราะถ้าจานเบรกสึกหรอจนต้องทำการเจียรให้เรียบก็หมายถึงลิมิตของความหนาที่จะใช้จานเบรกนั้นหมดไปแล้ว

ที่ถูกต้องที่สุดคือจะต้องเปลี่ยนจานเบรกใหม่และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนเป็นของแท้ จานเบรกของแท้หรือจานเบรกที่ถูกผลิตมาอย่างได้มาตรฐานนั้นจะต้องทนทานต่อความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อเบรก และความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องคลายตัวหรือระบายได้อย่างรวดเร็ว อยากให้เชื่อไว้ว่าผ้าเบรกนั้นจะใช้ของแบบใด อย่างไรก็ได้ แต่จานเบรกจะต้องเป็นของแท้เท่านั้น

ในหน้าฝนเรามักจะต้องขับรถลุยน้ำกัน ไม่เช้าก็เย็นหรือทั้งวัน เมื่อนำรถกลับเข้าบ้านจอดค้างคืนเรามักจะใช้เบรกมือเป็นตัวช่วยในการป้องกันรถเคลื่อนตัว แต่การที่รถลุยน้ำมาทั้งวันผ้าเบรกมือมักจะชุ่มน้ำอมน้ำเอาไว้ เมื่อจะออกจากบ้านในตอนเช้าหลายๆคนมักจะปลดเบรกมือแล้วออกรถแต่ก็จะพบกับปัญหาเบรกติดรถไม่ยอมออกเพราะผ้าเบรกไม่ยอมคลายตัวจากจานเบรกวิธีแก้ไขก็คือเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังแล้วกระตุกรถแรงๆ (กระชาก) และถ้าผ้าเบรกยังไม่หลุดก็ไม่ต้องกลัวว่าเบรกจะเสียเครื่องจะพัง ถ้าจะขับรถโดยผ้าเบรกมือไม่ยอมคลายตัวออกสักระยะหนึ่ง หรือจอดรถโดยไม่ต้องใช้เบรกมือหลังจากการลุยน้ำ

 


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย นายประโยชน์
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


 

article [last update 25-07-07]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : webmaster@teentoa.com นายตีนโต 08949-09005