article [last update 17-08-07] อ่าน

แม่แรงธรรมชาติ

การขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ดูจะเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติแท้จริงที่ยังมิได้มีใครไปตกแต่งดัดเเปลง เพราะนอกจากจะได้คลายความเครียดจากการทำงานแล้ว ยังทำให้เราได้มีโอกาสหวนคิดถึงความรู้เก่าๆ ที่เคยเรียนรู้มาในอดีต ไม่จำกัดว่าต้องเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

ไม่เชื่อลองดูคณะแคมปิ้งมือใหม่หลายๆ ทีมที่แย่งกันหุงหาอาหารสไตล์ชีวิตกลางแจ้งเหมือนกับการเรียนวิชาลูกเสือและเนตรนารี พร้อมกับลงท้ายด้วยการได้มีโอกาสกินข้าว 3 กษัตริย์ คือ ข้างบนแฉะ ตรงกลางดิบ ส่วนล่างสุดถึงกับไหม้ไปเลย และเมื่อเวลาผ่านเลยช่วงนั้นมาแล้ว ก็กลายเป็นอีกเรื่องราวที่ทำให้อมยิ้มได้ทุกครั้งที่คิดถึง หรือเรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งเมื่อเอากลับมาเล่าสู่กันฟังในกลุ่ม

เข้าเรื่องที่จั่วหัวกันไว้เลยดีกว่า ก็คือเรื่อง "แม่แรงธรรมชาติ" ซึ่งดูจะน่าสนใจกว่าเรื่องอาหารการกิน เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีถนอมอาหารพัฒนาไปไกลจนช่วยให้เราสบายขึ้นมาก

หลายท่านที่ตั้งใจเตรียมรถเพื่อเที่ยวป่าด้วยการไปใส่ชุดยกช่วงล่างที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งของในประเทศ และแบรนด์เนมนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมกับใส่ยางขนาดใหญ่ขึ้นให้ดุดันเข้าไปอีก แน่นอนว่าความสูงที่เพิ่มย่อมทำให้ผ่านพ้นอุปสรรคหลายๆ แบบได้ง่ายขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากเอนหลังฟังเสียงดนตรีที่ธรรมชาติเป็นผู้ขับกล่อมบรรเลงแล้ว ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นยางของออฟโรดคันเก่งที่เพิ่งผ่านการหล่มโคลน และปีนขึ้นเนินชันมาสู่กลางป่าลึกแห่งนี้ ได้ถึงแก่อาการแบนราบคาบจนขอบล้อแม็กลายสวยเกือบติดพื้น

สาเหตุมีหลายแบบครับ ตั้งแต่บังเอิญเศษโคลนทรายเล็ดลอดไปบริเวณจุ๊บลูกศร จนทำเอายางซึม ในกรณีนี้สามารถทดสอบได้ง่ายๆ ด้วยการใช้น้ำลายป้ายลงไปบริเวณจุ๊บเติมลม ถ้าหากมีการรั่วซึมก็จะเกิดฟองอากาศขึ้นมา ถ้าบังเอิญไปโดนหนามหรือขอบหินจนลมยางรั่วซึม ซึ่งหากคุณพกกระป๋องสเปรย์อุดรอยรั่วซึมมาด้วย ก็ไม่ยาก หรือจะเป็นจากสาเหตุแรกที่ต้องถอดเอาลูกศรออกมาทำความสะอาด หรือเปลี่ยนใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่มีปั๊มลมมาด้วยก็ต้องใช้วิธีเปลี่ยนยางอะไหล่แทน

แต่ปัญหาของทั้ง 2 วิธีก็คือ หากใช้สเปรย์อุดรอยรั่วซึม ก็ต้องใช้แม่แรงยกล้อข้างที่แบนให้ลอยจากพื้นขึ้นมาหน่อย เพราะล้อที่แบนทำให้น้ำหนักกดลงมามาก อีกทั้งแก้มยางสำหรับรถประเภทนี้จะแข็งกว่าแก้มยางรถเก๋ง ลมยางจากกระป๋องสเปรย์ขนาดเท่านี้ไม่สามารถอัดเข้าไปในยางได้ หรือถ้าจะเปลี่ยนยางอะไหล่ ก็แน่นอนว่าต้องใช้แม่แรงยกล้อรถขึ้น

หลังจากเอาแม่แรงที่ติดรถมาจากโรงงานใส่ใต้ท้องรถแล้วโยกคันขึ้นแม่แรงให้ตรงกับจุดรับน้ำหนัก จนได้เหงื่อ ปรากฏว่าขึ้นแม่แรงสุดแล้วแต่ยังไม่สามารถยกให้ล้อลอยขึ้นจากพื้นเพื่อถอดยางอะไหล่ออกได้ เนื่องจากล้อและยางขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนเข้าไป ถามไถ่เพื่อนร่วมทางก็ปรากฏว่ามีเพียงแม่แรงติดรถมาเหมือนกัน ไม่มีสูงกว่านี้ ..เอาละสิ

แต่เรื่องแบบนี้แก้ไม่ยากครับ แต่อาจต้องเสียเวลาหาขอนไม้สัก 2-3 ท่อน และทำตามวิธีดังนี้คือ ใช้ขอนไม้ขนาดใหญ่ หรือก้อนหิน ทำสะพานจำลองขนาดที่พอให้ล้อรถที่แบนปีนขึ้นไปได้ ลองนึกภาพตามนะครับว่าเมื่อล้อข้างหนึ่งยกขึ้นสูงแล้วตัวเพลาจะทำมุมกับพื้นตามความสูงของล้อข้างที่ยกขึ้น จากสภาพเพลาปกติที่ขนานกับพื้น จากนั้นก็ให้หาขอนไม้อีกท่อนวางเข้าไปหนุนที่ใต้เพลากะว่าเมื่อเอาขอนไม้หรือสะพานจำลองออกแล้ว ขอนที่หนุนเพลาอยู่จะหนุนให้ล้อลอยจากพื้น

ขั้นตอนต่อไปคือ การเอาขอนไม้หรือสะพานจำลองออก ซึ่งมีหลายวิธี ตั้งแต่ขุดดินรอบๆ แล้วค่อยย้ายขอนไม้ออก หรือใช้เชือกคล้องขอนไม้แล้วใช้รถอีกคันลากออก หรือใช้สลิงคล้องแล้ววินช์ออกก็ได้ ครับ เท่านี้เพลาก็จะตกลงไปนั่งอยู่บนขอนไม้ที่ลองไว้ และเมื่อเสร็จพิธีการไม่ว่าเติมลมด้วยสเปรย์หรือเปลี่ยนยางอะไหล่จนเรียบร้อย ก็เพียงขับรถออกไป ล้ออีก 3 ล้อ ที่แตะพื้นอยู่ก็จะขับเคลื่อนให้เพลาพ้นออกจากขอนไม้ เท่านี้ก็เป็นเสร็จวิธีครับ จากนั้นก็จำไว้ว่าคราวหน้าต้องหาแม่แรงที่ยกล้อให้สูงกว่านี้มาติดรถไว้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยลิ้นห้อยกันอีก…

 


teentoa.com ขอขอบคุณ
บทความโดย ไลฟ์แอนด์ออลวีลไดรฟ์
เรียบเรียง ตีนโต ดอทคอม


article [last update 17-08-07]


 
Copyright @ 2005 / Web Designed by : teentoa / Since : 24 April 2006
All Right Reserved, Contact us : webmaster@teentoa.com นายตีนโต 08949-09005