ผมหมายความว่าถ้าจะเลือกมีรถสักคันระหว่างรถเก๋งที่เป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ไม่ว่าจะเป็นขับล้อหน้าหรือล้อหลัง กับรถขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่เป็นรถแบบ SUV โดยไม่จำกัดว่าการขับ 4 ล้อนั้นจะเป็นการขับแบบถาวร (Full time) หรือว่าขับตามที่เราเลือก (Part time) หรือแบบขับ 4 ล้อโดยอัตโนมัติ (Real time) สำหรับคนที่มีรถเก๋งอยู่แล้วและต้องการที่จะมีรถเพิ่มอีกสักคัน และตัวเลือกนั้นเป็น SUV ที่ขับแบบสี่ล้อในแบบใดก็ตาม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว

สำหรับผู้ใช้รถที่อยากจะมีรถสักคันเดียว ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่มือเก่าที่ต้องการเปลี่ยนรถ คงต้องชั่งใจกันมากพอสมควรที่จะเลือกเก๋ง หรือสปอร์ตอเนกประสงค์ เพราะราคาและแบบของรถแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากประโยชน์ใช้สอยและพฤติกรรมการขับ รถเก๋ง (Passenger cars) เป็นรถนั่งที่ถูกมองเป็นอันดับแรกเมื่อคิดจะมีไว้ใช้ รถเก๋งมีหลากหลายรูปแบบราคาและขนาดให้เลือกได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ใช้งานง่าย ดูแลบำรุงรักษาง่าย อุดมไปด้วยระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายทุกรูปแบบ แต่ก็มีขอบเขตจำกัดในการใช้งาน ทั้งสภาพของเส้นทางและสภาพของอากาศ

SUV ที่เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ดูเหมือนจะมีขนาดที่สูงใหญ่ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง แต่กับสภาพอากาศที่แปรปรวน ถนนหนทางที่เป็นหลุมบ่อ ฝนตกถนนลื่นน้ำท่วมขัง ก็เป็นเหตุผลที่ดีพอที่ควรจะเลือก SUV เอาไว้เป็นรถประจำกาย ปัจจุบันรถประเภทนี้ถูกออกแบบให้ตอบสนองจุดประสงค์ของการใช้งานทั้งนอกเมือง ในเมือง และการเดินทางท่องเที่ยวในสภาพถนนและภูมิอากาศที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นผู้ผลิตได้ออกแบบให้รถประเภทนี้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย มีระบบความปลอดภัยที่ไม่น้อยไปกว่ารถเก๋ง แน่นอนที่ต้องรวมเอาความสวยงามเข้าไว้ด้วย บนถนนแห้งที่ราบเรียบ เป็นไปได้ว่าที่รถเก๋งจะมีการทรงตัวที่ดีกว่า แต่เมื่อใดที่สภาพถนนเปลี่ยนไป ฝนตกถนนลื่นหลุม โคลน น้ำขัง SUV จะให้ความมั่นคงในการทรงตัว ควบคุมบังคับให้ตัวรถเชื่องมือได้มากกว่ารถเก๋งหลายเท่าตัว

อย่างไรก็ตามถ้าจะเลือกรถ SUV ไว้เป็นรถประจำตัว ก็อยากจะแนะนำให้เป็นรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะดีกว่าที่จะเลือกแบบขับ 2 ล้อ ซึ่งประโยชน์ใช้สอยก็ไม่ได้แตกต่างจากรถเก๋งแต่อย่างใด และที่สำคัญก่อนที่จะเลือกรถประเภทนี้ไว้ใช้ ต้องเข้าใจและรู้ไว้ก่อนว่า SUV แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่ารถเก๋ง แม้จะมีขนาดของเครื่องยนต์ที่เท่ากัน

นอกจากนั้นระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มีชิ้นส่วนอุปกรณ์เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้ล้ออีกคู่หนึ่งทำงานตามที่ต้องการนั้น ต้องมีภาระในการดูแลบำรุงรักษาเพิ่มเติม เปรียบอย่างชัดเจนก็คือรถเก๋งนั่งขับเคลื่อนล้อหน้า ห้องเกียร์ก็จะมีชุดเดียว เพลาขับหรือการขับเคลื่อนก็มีชุดเดียว แต่ในรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ห้องเกียร์ก็จะมี 2 ชุด คือห้องเกียร์หลักและห้องเกียร์ฝาก (Transfer case) มีเพลากลาง มีชุดเฟืองท้าย มีเพลาขับล้อ

ที่สำคัญที่สุดเมื่อคุณเลือก SUV แบบขับ 4 ล้อแล้ว คุณจะต้องเรียน ฝึกการขับ ต้องรู้ให้ได้ก่อนออกไปอยู่บนถนนว่าอุปกรณ์ขับเคลื่อนเพื่อให้รถขับได้พร้อมกันทั้ง 4 ล้อนั้นจะทำงานเมื่อไร อย่างไร และจะควบคุมสั่งการได้ด้วยวิธีใด SUV อาจจะตอบโจทย์ได้ในเรื่องของความมั่นคงในการขับขี่เมื่ออยู่บนสภาพถนนที่ไม่ปกติ ในสภาพแวดล้อมที่รถขับเคลื่อน 2 ล้อ ไม่สามารถที่จะทำได้ ความมั่นคงหรือการขับขี่ที่ดีเพราะมีล้อช่วยขับเพิ่มมาอีก 2 ล้อ ก็ต้องระมัดระวังด้วยว่ามุมบังคับเลี้ยวจะกว้างกว่าที่เกิดขึ้นกับรถเก๋ง รถที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จำเป็นที่ต้องมีความสูงจากพื้นมากกว่ารถเก๋งที่เคยขับในมุมมองหนึ่ง อาจจะมองว่าความสูงจะทำให้เกิดทัศนวิสัยที่ดีในการควบคุมรถ แต่ความสูงที่มองไกลได้ดีก็ก่อให้เกิดจุดบอดในการมองเห็นจากมุมใกล้

ไม่ว่าคุณจะมีความชำนาญในการขับรถมานานแค่ไหน ขับรถมากี่คันแล้วก็ตาม เมื่อคุณได้รถใหม่ที่คุณยังไม่เคยขับ คุณจะต้องเรียนรู้ถึงความแตกต่างที่มีในรถคันใหม่ให้เข้าใจโดยเฉพาะ SUV คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้การขับขี่ที่ถูกต้องมากกว่าที่จะเรียนจากหนังสือคู่มือประจำรถ และปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องเสียเวลาเสียเงินทองมากมายที่จะเข้าไปในห้องเรียนอีกครั้ง ครับ รถเหมือนๆ กันแต่ไม่เหมือนกันแน่นอน