สำหรับแฟนๆ ในเอเชีย ซูซูกิไซด์คิ๊กรู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ ซูซูกิ เอสคิวโด้ (ESCUDO) สำหรับในตลาดยุโรปและออสเตรเลียรู้จักกันในชื่อซูซูกิวิทาร่า ในอเมริกาเหนือมีเรียกกันหลายชื่อ เช่น ซูซูกิไซด์คิ๊ก เชพโรเลต จีโอ และจีเอ็มแทรคเก่อร์ แถบตอนใต้ของแปซิฟิคและแคนาดาเรียกรถรุ่นนี้ว่า "อะซูนะ ซันรันเน่อร์" ซูซุกิส่งรถรุ่นนี้ขายทั่วโลกและเป็นออีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง ตัวรถซูซูกิไซด์คิ๊กจะใหญ่กว่าซูซูกิซามูไรนิดหนึ่ง ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ช่วงล่างด้านหลังเป็นคอยสปริง เกียร์อัตโนมัติ ภายในหรูหรา สมรรถนะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ทุรกันดารยังไว้ใจได้ สมกับสร้างขึ้นมาเพื่อให้ขับใช้งานแบบสมบุกสมบัน ในพื้นที่ป่าเขา หลังถนนคอนกรีต

เมื่อย่างเข้าสู่ทศวรรตที่ 90 ซูซูกฺก็นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ซามูไร สิ่งหนึ่งที่ถูกจับเปลี่ยนทันทีคือใชเป็นเครื่องยนต์หัวฉีดแบบ TBI (Throttle body injection) ซึ่งเป็นเทคโลยีของจีเอ็ม ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือ ซูซูกิเพิ่มม้าให้สองตัว จากเดิม 64 แรงม้า มาเป็น 66 แรงม้า ซึ่งค่อนข้างน้อย แต่ซูซูกิเพิ่มสมรรถภาพในการขับเคลื่อนแบบออฟโรดให้กับซูซูกิซามูไร ลดความจุกระบอกสูบจาก 1324 ซีซี เหลือ 1298 ซีซี สไปเดอร์เกียร์ที่เคยอยู่ข้างหน้าสี่ตัว เหลือแค่สองตัว ซูซูกินำกล่องทรานสเฟอร์กับทรานสมิชชั่นแบรริ่งมาใช้

ปี 1991 ซูซูกินำรถไซด์คิ๊กช่วงยาวออกขาย เป็นตัว 5 ประตู หลังคาแข็ง เพื่อขยายตลาด ยกระดับรถซูซูกิไซด์คิกให้เป็นรถตรวจการหรูขนาดเล็ก รถไซด์คิกปี 1991 ใช้เครื่องยนต์ 1600 ซีซี 16 วาวล์ หัวฉีดมัลติเพอร์ต เพิ่มระดับความแรงไปที่ 95 แรงม้า ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับกับน้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้น ซูซูกิส่งรถรุ่นนี้ออกขายทั่วโลก จากโรงงานผลิตใน ญี่ปุ่น แคนนาดา และสเปน
ปี 1993 ซูซูกิซามูไรเปลี่ยนแผงกระจังหน้า นำเอาอักษร “S” มาใช้เป็นครั้งแรก โดยติกตรงกลางของกระจังหน้า ในปีถัดมา มีการย้ายเอาที่นั่งด้านหลังออก เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายความปลอดภัยของแคลิฟอร์เนีย และเป็นปีสุดท้ายเป็นปีสุดท้ายที่ซูซูกิส่งซามูไรไปขายในแคลิฟอร์เนียร์ ในที่สุดเวลาของซูซูกิซามูไรในอเมริกา และแคนาดาก็หมดลง ปี 1995 ซูซูกิเลิกขายซามูไรในอเมริกาเหนือทั้งหมด

เพื่อทดแทนซามูไรที่หายไป ซูซูกิก็เปิดตัวไซด์คิกตัวใหม่ ในปี 1995 เช่นกัน ชื่อ Sidekick Sport รูปทรงสปอร์ตสมชื่อ หวังยกระดับ ให้เป็นรถหรู ลงเครื่อง 1.8 ลิตรตัวใหม่ 120 แรงม้า DOHC สี่สูบวางเป็นแถวเดียว เดี่ยวตอนลึก การใช้เครื่องตัวใหม่ ทำให้วิศวกรรของซูซูกิต้องออกแบบตัวถังใหม่สำหรับไซด์คิกสปอร์ต ล้อกว้าง 16 นิ้ว ท่าทีเอาเรื่อง อยู่ใต้ซุ้มล้อและบังโคนที่ท่าทีขึงขัง กระจังหน้าและฝากระโปรงก็ออกแบบใหม่ ภายในตบแต่งหรูหรา แต่ไม่ม่มากับเครื่องรุ่นสแตนดาร์ด อย่างไรก็ตามในยุโรป เอเชียและออสเตรเลียจะได้รถเว่อร์ชั่นที่ดีกว่า ชื่อ “วีทาร่า แอลดับเบิ้ลยูบี” (Vitara LWB) เป็นเครื่อง 6 สูบ วางในรูปตัววี 24 วาวล์ 4 แคม ความจุกระบอกสูบ 2000 ซีซี เป็นรถซูซูกิสี่คูณสี่ใหญ่และแรงที่สุดตั้งแต่เคยทำมา แรงที่ได้ประมาณ 134 แรงม้า

1996 “คอยลี่” ซามูไร

ปี 1996 เป็นปีของการเปลี่ยนครั้งสำคัญของ ”เอสเจ
ซีรี่ย์” (SJ Series) รถรุ่นไหมรู้จักกันในนาม “คอยลี่” ซามูไร ถูกนำมาเปิดตัว ขอแตกต่างของรถรุ่นนี้สามารถมองเห็นได้ง่าย ก้มมองใต้ท้องรถจะเห็นคอยสปริงใหม่สี่ตัวจับอยู่คู่กับเพลาขับ ซึ่งใช้อัตราทดอยู่ที่ 3.909 จากเดิมเพียงแค่ 3.727 อัตราทดของเกียร์สโลว์ (Transfercase) เปลี่ยนจาก 1.409 เป็น 1.320 ในตำแหน่ง “ไฮ” (High) ส่วนตำแหน่ง “โลว์” (Low) เปลี่ยนจาก 2.268 เป็น 2.123

ซูซูกิให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ตั้งใจทำให้ซามูไรเป็นรถที่ขับสบาย ห้องเครื่อง เกียร์ รวมทั้งแดชบอร์ด พวงมาลัย ประตู คอลโซล ตลอดจนเบาะนั่ง ทั้งคู่หน้าและคู่หลัง ถูกออกแบบใหม่หมด เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งหรูๆเข้าไป ระบบกันสะเทือนและช่วงล่างก็ได้รับการปรับปรุง เสริมสมรรถนะการเกาะถนน เลื่อนชั้นเป็นรถยนต์ระดับสูง ระบบเบรค พวงมาลัยเพาเว่อร์ พัดลมไฟฟ้า คอยจุดระเบิด สายครัช และท่อไอเสียทั้งระบบ ได้รับการปรับปรุงให้เป็นรถยนต์สมรรถนะสูง ระบบจ่ายเชื้อเพลิง และหม้อน้ำได้รับการปรับปรุง มีการเสริมดามเหล็กให้โครงสร้างและแชชซี เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

ภายนอกกับฝากระโปรงที่ท่าทางดุดัน โปร่งล้อหน้า กระจังหน้า กันชนหน้าทำให้ดูดีมีสกุล และทำให้นึกถึงแอลเจซีรี่ย์ (LJ Series) ที่มีไฟเลี้ยวสองอันตั้งซ้อนกันเหมือนเลข “8” การปรับโฉมทำให้รถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าตาดี สวยที่สุดในเอสเจซีรี่ย์ (SJ Series) อย่างไรก็ตาม มีบางโรงงานเท่านั้นที่ผลิตคอยลี่ซามูไร ตัวใหม่ปรับโฉม เครื่องยนต์เองก็ใช้ไม่เหมือนกัน ที่ญี่ปุ่นใช้เครื่องยนต์แนโรว์แทรค (narrow-track) 1.0 ลิตร ความจุกระบอกสูบ 550 ซีซี 12 วาวล์ เทอร์โบ 3 สูบ ต่อมามีเครื่องยนต์ให้เลือกอีกตัวหนึ่ง เป็นเครื่องยนต์ 16 วาวล์ เอ็มพีเอฟไอ MPFI แคมคู่ 1300 ซีซี

ปี 1996 มีปรับโฉมสำหรับซูซูกิทาร่าที่ผลิตขายในตลาดเอเซีย และออสเตรเลีย นำเอาเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรของมาสด้ามาใช้ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ สี่สูบวางเรียง รุ่นหลังๆ มีการติดอินเตอร์คูลมาให้ด้วย เพิ่มแรงม้าได้อีก 23 เปอร์เซ็นต์ และให้แรงบิดเพิ่ม 29 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มสมรรถนะของเครื่องให้สูงขึ้น สำหรับตลาดยุโรป โรงงานที่ซานตาน่าและที่อื่นๆ ลงเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรเทอร์โบของเปอร์โย ที่มาพร้อมกับอินเตอร์คูลจากโรงงาน ให้กับซูซูกิซามูไร และซูซูกิวิทาร่า